เราให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อนเป็นสำคัญ วันนี้เรามาแนะนำผ้าสำหรับทำผ้าปูที่นอนแต่ละประเภทกันนะค่ะ เพื่อให้คุณลูกค้าได้เลือกเนื้อผ้าของผ้าปูที่นอนสำหรับโรงแรมที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ชนิดของผ้าและชนิดของผ้า
- ผ้า Cotton 100% ส่วนผสมของเส้นด้ายเป็นผ้าฝ้าย 100% (Cotton 100%) มีความยืดหยุ่นสูงมาก เนื้อผ้านุ่มเส้นใยฟูบาง ระบายอากาศได้ดี นอนสบาย ไม่ร้อน คงทนแม้ผ่านการซักหลายครั้ง เนื้อผ้ามีความนุ่ม และเงา ความนุ่มสบายและสัมผัสของผ้าขึ้นอยู่กับจำนวนการทอและลักษณะการทอของเส้นด้าย โดยผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ทั่วไปนิยมเลือกสำหรับห้องพักจะเริ่มต้นตั้งแต่ 180 เส้นด้าย และมากสุดได้ถึง 2000 เส้นด้าย ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของโรงแรมและห้องพัก ซึ่งจำนวนการทอมีความสำคัญกับการใช้งาน ยิ่งใช้จำนวนเส้นด้ายเยอะๆ สัมผัสของผ้าก็จะยิ่งนุ่มสบาย ไม่ร้อน ช่วยให้นอนหลับสบาย และช่วยสงเสริมภาพลักษณ์ห้องพักของโรงแรมดูหรูหรามีระดับ แต่ราคาต้นทุนการผลิตก็จะสูงตามจำนวนเส้นด้ายไปด้วย
ผ้า Cotton Satin สีขาว ธรรมชาติของผ้า ข้อดีคือ cotton ยิ่งแท้ ยิ่งยับ แต่ยิ่งซักยิ่งนุ่ม และมีความคงทนมาก แต่ข้อเสียของผ้า Cotton คือยับมาก ต้องรีดเยอะ ผ้า Cotton ของทางร้านมีจำนวนเส้นด้ายให้เลือกตั้งแต่ 220 เส้น , 250 เส้น จนถึง 300 เส้น ส่วนมากนิยมใช้ในโรงแรม 3-6 ดาว แบ่งตามจำนวนเส้นด้าย เส้นด้ายยิ่งมาก ยิ่งนุ่ม ยิ่งแน่น ยิ่งเหนียว ยิ่งทนค่ะ (เทคนิคการรีดให้เรียบ คือ รีดตอนผ้าหมาดๆ ถ้าผ้าแห้งเส้นใยจะเกาะแน่นรีดเรียบยาก หรือใช้เตารีดไอน้ำไฟแรงสุดได้เลยค่ะ)
ผ้า Cotton Satin ทอลายริ้ว ธรรมชาติของผ้า คือ ทอด้วยผ้า Cotton Satin โดยทอเป็นลายริ้ว หนา 1 นิ้ว ผ้ามีความนุ่ม ลื่น ดูหรูหรา เหมาะสำหรับ รีสอร์ท โรงแรม ที่ต้องการเพิ่มราคาห้องพัก
- ผ้า CVC เป็นส่วนผสมของเส้นใยด้ายที่เป็นเส้นใยธรรมชาติหรือผ้าฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์ (Cotton& Polyester) เส้นใยทั้งสองมีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี สำหรับเนื้อผ้าผสม CVC ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Cotton 60-85% ต่อ Polyester 15-40% โดยคุณสมบัติจะแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ผ้า CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton60%+ Polyester 40%) ลักษณะโดยทั่วไปของเนื้อผ้ามี มีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับปานกลาง CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton80%+ Polyester 20%) ความยืดหยุ่นจะสูงมาก การระบายพอใช้ เนื้อผ้าแน่น เนื้อผ้านุ่ม สัมผัสสบาย ไม่ยับง่าย ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน แต่จะฟูด้วยลักษณะของเส้นด้าย ผ้า CVC ของทางร้าน คือผ้าผสม ระหว่าง Cotton 50% กับ Polyester 50% ธรรมชาติของผ้า คือ ไม่ยับมาก ไม่ต้องรีดเยอะ หากสะบัด แล้วตากตึงๆ ก็แทบจะไม่ต้องรีดเลยค่ะ มีความนุ่มกว่าผ้า TC และราคาไม่สูงมากนัก ส่วนมากนิยมใช้ในโรงแรม 1-3 ดาว รีสอร์ท หรือห้องพักที่มีราคาไม่เกินห้องละ 700 บาท ผ้าตัวนี้มีแต่สีขาวเรียบ ไม่มีผ้าสีค่ะ
3.ผ้า TC เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester เป็นเนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า TC ระหว่าง Polyester และ Cotton จะอยู่ที่อัตราส่วนของ Cotton 35% และ Polyester 65% ผ้าประเภทนี้ ราคาอยู่ในระดับปานกลาง โดยขึ้นกับเบอร์ผ้า และ เส้นใยผ้า มีลักษณะนุ่มและบางยืดหยุ่นปานกลาง คุณสมบัติในการระบายอากาศได้ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้าชนิดนี้จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศ ราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ กล่าวคือ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เหมาะสำหรับกิจการที่ต้องการใช้ต้นทุนต่่ำ เพราะธรรมชาติของผ้าชนิดนี้ คือ ไม่ยับไม่ต้องรีด และตัวผ้ามีราคาถูก เหมาะสำหรับห้องพักรายวัน รายชั่วโมง หรือห้องพักราคาไม่เกิน 500 บาท และ เหมาะสำหรับโรงแรม รีสอร์ท ตามต่างจังหวัดที่นิยมผ้าสี หรือ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำประปาเหลือง หรือ ใช้ผ้าสีขาวไม่ได้
- ผ้า TK เป็นผ้าที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) 100% เนื้อผ้าจะมีลักษณะมันผิวผ้าเป็นเงามากกว่า TC คุณสมบัติทั่วๆไป คือ ผ้าจะไม่ค่อยยับ ไม่ย้วย แต่ข้อเสียก็คือผ้าจะร้อน เนื่องจากระบายอากาศได้ไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกันกับ TC ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด ไม่ค่อย ซับเหงื่อ รีดง่าย ยับยาก ไม่หด ไม่ยืด ใช้งานไประยะหนึ่งจะเกิดการขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน สีหมองคล้ำ เนื้อผ้าจะระบายอากาศได้น้อยมาก แต่ข้อดีของเนื้อผ้า TK ก็คือ ราคาค่อนข้างถูก แต่ไม่นิยมนำมาผลิตเป็นผ้าปูที่นอนในโรงแรม
คราวนี้เรารู้คุณสมบัติของผ้าแต่ละประเภทกันละ Smile เราก็จะเข้าใจว่า ทำไมการคัดเลือกผ้ามาทำผ้าปูที่นอนจึงสำคัญ และทำไมโรงแรมหรูๆ ระดับ 5 ดาว ผ้าปูที่นอนเค้าถึงสัมผัสนุ่ม ลื่น นอนสบายจนไม่อยากตื่น หรือแม้แต่รีสอร์ทในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ให้ความสำคัญกับการเลือกสรรค์ผ้าปูที่นอน